เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ (Cookies) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและ ยินยอมการจัดเก็บคุกกี้ดังกล่าว โดยท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายคุกกี้ และ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ของบริษัทฯ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
(สำหรับผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้ขาย คู่ค้า ลูกค้าและ/หรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว)

          บริษัทได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นโครงสร้างการควบคุม ดูแลและการบริหารจัดการและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในการครอบครองดูแลของบริษัทอันเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” บริษัทจึงประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

 

ข้อ 1.   คำนิยาม
             ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง  ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
             เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ท่านซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
             ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งต่อไปจะรวมเรียกว่า “บริษัท”
             ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำสั่งของบริษัท
             เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบุคคลดังกล่าวเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตามกฎหมาย

 

ข้อ 2.   แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
             บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ได้แก่ นายจ้างของท่าน ผู้ว่าจ้างของท่าน หน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น

 

ข้อ 3.   ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ประเภทข้อมูล

ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล

 รายละเอียดส่วนบุคคล

 1.ชื่อชื่อกลางนามสกุลนามแฝง (หากมี)
 2.เพศ
 3.วันเดือนปีเกิด
 4.อายุ
 5.สัญชาติ

 

 รายละเอียดการติดต่อ

 1.ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
 2.ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์)
 3.หมายเลขโทรศัพท์
 4.หมายเลขโทรสาร
 5.บัญชี Social Media เช่น Facebook Line Instagram เป็นต้น

 

 รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน

 1.ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
 2.เลขประจำตัวประชาชน
 3.ข้อมูลหนังสือเดินทาง
 4.ลายมือชื่อ
 5.เสียง

 

 รายละเอียดการทำงาน        

 1.รายละเอียดเกี่ยวกับนายจ้างและสถานที่ทำงาน
 2.ตำแหน่ง
 3.ค่าตอบแทน

 

 รายละเอียดทางการเงิน       

 บัญชีเงินฝากของท่านสำหรับจ่ายค่าตอบแทน

 ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย            

 

 

 1.รูปภาพ
 2.ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล
 3.การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ
 4.ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
 5.บันทึกวีดีโอ

 

 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว 

 

 1.ศาสนา
 2.ข้อมูลชีวภาพ เช่น การจดจำใบหน้า เป็นต้น
 3. ข้อมูลสุขภาพ
 4. ข้อมูลความพิการ

 

 ข้อมูลอื่นๆ  

 

 1.บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล์ ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์
 2.ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เช่น ข้อมูลความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลการรักษาพยาบาล ข้อมูลประวัติการเรียกร้องสินไหมทดแทน
 3.ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ
 4. ชื่อรถยนต์(ยี่ห้อ) รุ่น ปีรุ่นของรถยนต์

 

 

หมายเหตุ ในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัท อาจมีผลทำให้เกิดความไม่สะดวก ความล่าช้า หรือทำให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับท่านได้อย่างสมบูรณ์ เป็นต้น

 

ข้อ 4.   บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
             บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับท่าน ตลอดจนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่บริษัทหรือท่านต้องปฏิบัติตาม และเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้

             4.1    การปฏิบัติตามสัญญา
                       เพื่อให้ท่านสามารถทำงานที่จ้าง หรือให้บริการ หรือขายสินค้า หรือประสานงานกับบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านหรือนายจ้างของท่านหรือผู้ว่าจ้างของท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการทำงานที่จ้าง หรือให้บริการ หรือขายสินค้า หรือประสานงานกับบริษัท เช่น การประมวลผล การติดต่อ ประสานงาน การแจ้ง การมอบงาน เป็นต้น

             4.2    การปฏิบัติตามกฎหมาย
                       เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด เช่น
                       4.2.1 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา กฎหมายประกันภัย กฎหมายประกันชีวิต กฎหมายภาษีอากร กฎหมายล้มละลาย กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและกฎหมายคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
                       4.2.2  กฎหมายอื่นๆ ที่จำเป็น รวมถึงประกาศและระเบียบที่ออกตามกฎหมายดังกล่าว

             4.3    ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
                       เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ เช่น
                       4.3.1  เพื่อความจำเป็นต่อการประกอบธุรกิจปกติของบริษัท ตามที่จดทะเบียนไว้ต่อกระทรวงพาณิชย์ เช่น
                                  4.3.1.1       ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย
                                  4.3.1.2       ประกอบธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต
                       4.3.2 การบันทึกเสียง การบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกภาพเคลื่อนไหว CCTV
                       4.3.3 การสำรวจความคิดเห็น การเข้าร่วมกิจกรรมภายในองค์กร การประกาศผล การรับ-ส่งพัสดุ การวิเคราะห์ วิจัย ทำสถิติ
                       4.3.4 การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การจัดการข้อร้องเรียน การบริหารจัดการภายในองค์กรและกลุ่มธุรกิจทางการเงิน การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต
                       4.3.5 ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำผิดกฎหมายต่างๆ การตรวจสอบข้อมูลการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือตรวจสอบพฤติกรรมการปฏิบัติงาน การดำเนินคดีในชั้นศาล
                       4.3.6 การทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
             4.4    ความยินยอม
                       ในบางกรณี บริษัทอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด และ/หรือ เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ดังต่อไปนี้ (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)                             
                       4.4.1 มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น ใช้ข้อมูลการจดจำใบหน้า หรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา เป็นต้น) ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่านก่อนการทำธุรกรรม เป็นต้น
                       4.4.2 กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
                       4.4.3 เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลใด ๆ ของท่าน ให้แก่บริษัทในกลุ่มธุรกิจของบริษัท และพันธมิตรทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ของบริษัท
                       4.4.4 การดำเนินการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอมของท่าน
             4.5    เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัยตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน) ซึ่งท่านสามารถตรวจดูได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน (http://www.oic.or.th)

 

ข้อ 5.   ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย             
            บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
            5.1    ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน ฝ่ายขาย ฝ่ายไอที
            5.2    คู่ค้าของบริษัท ได้แก่ บริษัทประกัน บริษัทประกันชีวิต  
            5.3    ผู้ประกอบวิชาชีพ ได้แก่ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ เป็นต้น
            5.4    หน่วยงานราชการหรือหน่วยงานกำกับดูแลอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กรมสรรพากร ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
            5.5    บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารผู้อำนวยสินเชื่อ บริษัทประกันภัย/ประกันชีวิต บริษัทติดตามทวงถามหนี้ ผู้ประเมินวินาศภัย นักคณิตศาสตร์ประกันภัย ผู้สำรวจภัย บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ โรงพยาบาล ศูนย์กู้ชีพ ผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทน (TPA) อู่ซ่อมรถ เป็นต้น

 

ข้อ 6.  ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามวัตถุประสงค์และความจำเป็นและเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ต้องเก็บตามวัตถุประสงค์หรือหมดความจำเป็นแล้ว บริษัทจะจัดการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยเร็วที่สุด ตามที่กำหนดในมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท แต่ทั้งนี้บริษัทอาจจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไปอีกไม่เกิน 7  ปี นับแต่วันที่การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสิ้นสุดลง

            อนึ่ง กรณีมีเหตุจำเป็นใด ๆ ส่งผลให้บริษัทจำต้องเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปจากที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะขยายระยะเวลาออกไปตามความจำเป็น โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า

 

ข้อ 7.   สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
            ภายใต้ระยะเวลาการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 ท่านมีสิทธิในการดําเนินการ ดังต่อไปนี้
            7.1    สิทธิในการถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะในกรณีที่บริษัทได้ขอความยินยอมจากท่าน
            7.2    สิทธิในการขอดูข้อมูลส่วนบุคคลและขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
            7.3    สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทอื่นหรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอน
            7.4    สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมโดยไม่ได้ขอความยินยอมจากท่านตามที่กฎหมายกำหนด
            7.5    สิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นท่านได้ เฉพาะในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็น หรือท่านถอนความยินยอม หรือท่านใช้สิทธิคัดค้านตามข้อ 7.4
            7.6    สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในระหว่างการตรวจสอบให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษา หรืออยู่ระหว่างการพิสูจน์ตามที่กฎหมายกำหนด
            7.7      สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

            ทั้งนี้ รายละเอียดการใช้สิทธิของท่านในแต่ละประเภทนั้นจะอยู่ในแบบฟอร์มคำร้องที่บริษัทได้จัดทำขึ้น กรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าวในข้อ 7.1

            7.7 ท่านสามารถติดต่อขอรับแบบฟอร์มได้ตามช่องทางการติดต่อที่กำหนดไว้ในข้อ 11.
            โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคําร้องของท่านภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคําร้องขอดังกล่าวข้างต้น
            ท่านไม่จําเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดําเนินตามสิทธิตามข้อ 7.1 7.2 7.4 7.5 7.6 และ 7.7 ยกเว้นการใช้สิทธิตามข้อ 7.3 บริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายคำขอละ  30 บาท

 

ข้อ 8.   การใช้คุกกี้
            บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้เว็บไซต์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอปพลิเคชันของบริษัท
            การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยบริษัทสามารถจดจำท่านทราบถึงความชื่นชอบของท่าน รวมถึงอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้บริษัทเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทหรืออีเมล์ช่วยให้บริษัทสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านมีความเกี่ยวข้องและเป็นสิ่งที่ท่านสนใจยิ่งขึ้น) รายละเอียดโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้

 

ข้อ 9 .  มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือการใช้งาน
            ข้อมูลส่วนบุคคล ณ วันที่บังคับใช้นโยบายฉบับนี้ บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสารไว้ในตู้เก็บเอกสารและล็อคกุญแจ สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์บริษัทได้จำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยกำหนดพาสเวิร์ดให้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทเท่านั้นจึงจะมีสิทธิที่จะเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ ทั้งนี้ บริษัทจะจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นการเฉพาะต่อไป

 

ข้อ 10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทจะทําการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจําเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบด้วยการประกาศเป็นหนังสือโดยเร็วที่สุด  

 

ข้อ 11. ช่องทางการติดต่อ
            11.บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
            เลขที่ 54 อาคารบี.บี.บิลดิ้ง ชั้น 5 ห้อง 3501-3502 และ ชั้น 6 ห้อง 3602 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
            โทรศัพท์ : 02-700-5222
            E-mail : customercare.admin@idirectbroker.com
            Website: https://www.idirectbroker.com

            11.2 บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
            เลขที่ 54 อาคารบี.บี.บิลดิ้ง ชั้น 6 ห้อง 3602 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10110
            โทรศัพท์ : 02-700-5222
            E-mail : customercare.admin@idirectbroker.com
            Website: https://www.idirectbroker.com

 

ข้อ 12.  เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
            โทรศัพท์ 02-700-5222
            Email : dpo@idirectbroker.com 

ทั้งนี้ ให้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565  เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2565
ในนามบริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด


ประกาศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
ประกาศ วิธีการขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
แบบฟอร์มคำร้องขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด)
แบบฟอร์มคำร้องขอยกเลิกความยินยอมในการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (บริษัท ไอ-ไดเร็คท์ ไลฟ์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด)